เทรนด์มาแรง 2025! ส่องวิธีลบรอยสิว รอยดำ จุดด่างดำ ด้วยโปรแกรมเลเซอร์(Laser) หรือ โปรแกรมเมโส(Meso) แบบไหนเห็นผลดีกว่ากัน?

    ปัญหาผิวหน้าเป็นความกังวลของใครหลายคน โดยเฉพาะรอยสิว รอยดำ และจุดด่างดำที่ทำให้ใบหน้าดูไม่สดใส ปัจจุบันมีวิธีการรักษามากมาย แต่ที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ การรักษาด้วยโปรแกรมเลเซอร์และโปรแกรมเมโส

   มาดูกันว่าทั้งสองวิธีนี้มีข้อดีข้อเสียอย่างไร และวิธีไหนเหมาะกับคุณมากกว่ากัน

โปรแกรมเลเซอร์ (Laser) คืออะไร 

      เลเซอร์ (Laser) เป็นคลื่นพลังงานที่มีความเข้มข้นสูง มีลักษณะเป็นลำแสง มีจุดโฟกัสแม่นยำ โดยความยาวของคลื่นแสงจะมีหลากหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับชนิดการใช้งานของเลเซอร์ โดยแต่ละชนิดสามารถรักษาปัญหาผิวที่แตกต่างกันออกไป เช่น รักษาสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ จุดด่างดำ ฝ้า กระ หลุมสิว รอยแผลเป็น ริ้วรอย หรือแม้กระทั่งกำจัดขน

โปรแกรมเมโส (Meso) คืออะไร

      การฉีดเมโส หรือ Mesotherapy (เมโซธีราปี) คือ กระบวนการทางการแพทย์อีกประเภทหนึ่งที่ใช้ในการฉีดสารวิตามินหรือสารสกัดต่างๆไปยังผิวหนังในระดับลึกถึงชั้นเซลล์ใต้ผิวของใบหน้าเรา โดยการฉีดเมโสจะเป็นการใช้เข็มเล็กๆ ที่จะถูกฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังในจำนวนจุดต่าง ๆ ที่มีปัญหาหรือจุดที่ต้องการรักษา

โปรแกรมเลเซอร์(Laser) VS โปรแกรมเมโส(Meso) แบบไหนดีกว่ากัน?

  ทั้งสองวิธีมีข้อดีต่างกัน หากต้องการแก้ไขปัญหาผิวเฉพาะจุดและเห็นผลเร็ว เลเซอร์จะเหมาะสมกว่า แต่หากต้องการบำรุงผิวแบบค่อยเป็นค่อยไปและธรรมชาติ เมโสจะเป็นตัวเลือกที่ดี ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

โปรแกรม เลเซอร์ (Laser) เหมาะกับใคร

  • คนที่มีปัญหารอยดำ รอยแดงจากสิว
  • คนที่มีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ 
  • คนที่มีรูขุมขนกว้างหรือมีหลุมสิว
  • คนที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำหรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ

โปรแกรม เมโส (Meso) เหมาะกับใคร

  • คนที่ต้องการเห็นผลแบบเร่งด่วน 
  • คนที่มีผิวแห้ง ไม่ชุ่มชื้น 
  • คนที่มีเวลาน้อย ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง
  • คนที่มีผิวแพ้ง่าย ผิวไม่แข็งแรง

ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาของแต่ละคน บางคนอาจจะเห็นผลไว บางคนอาจต้องใช้เวลา ดังนั้นก่อนการทำควรให้หมอประเมินก่อนทุกครั้ง 

ข้อดี โปรแกรมเลเซอร์ (Laser) VS โปรแกรมเมโส (Meso)

โปรแกรมเลเซอร์ (Laser)

  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยฟื้นฟูและกระชับรูขุมขนให้เล็กลง 
  • รักษาปัญหารอยสิว รอยดำ จุดด่างดำที่เกิดจากสิว ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
  • ทำให้หน้าดูเรียบเนียน กระจ่างใส 
  • ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

โปรแกรมเมโส (Meso)

  • ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ และผิวดูกระชับมากขึ้น
  • เห็นผลลัพธ์ได้ไวกว่าการทาครีมบำรุงผิว 
  • ไม่ต้องพักฟื้น มีรอยแดงสามารถหายได้ภายใน2-3วัน
  • ช่วยให้ผิวฉ่ำโกลว์ ให้งานผิวกระจก

ข้อเสีย โปรแกรมเลเซอร์ (Laser) VS โปรแกรมเมโส (Meso)

โปรแกรมเลเซอร์ (Laser)

  • ผิวหน้าอาจจะมีความไวต่อแดดหลังจากการทำเลเซอร์ 
  • ช่วงแรกหลังจากการทำอาจเกิดผิวแดง บวม หรือระคายเคือง
  • ต้องทำต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น
  • ผลลัพธ์ไม่ถาวร  

โปรแกรมเมโส (Meso)

  • อาจเกิดการแพ้ หรืออักเสบได้หากไม่ได้ฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 
  • ผลลัพธ์ไม่ถาวรต้องฉีดซ้ำหลายครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
  • ไม่เหมาะกับคนที่ผิวแพ้ง่าย อาจมีการระคายเคืองได้

โปรแกรมเลเซอร์ (Laser)  ที่ชาเมอร์ คลินิก (Charmer Clinic) แนะนำ

1.IPL Laser (ไอพีแอล เลเซอร์)

  IPL LASER คือ ระบบลำแสงฟลูออเรสเซนต์ที่มีความเข้มข้นสูงผ่านสารกรองพิเศษเพื่อตัดแสง UV เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของลำแสงด้วย ระบบพลาสมาไลท์ (Plasmalite) ช่วยปรับความยาวของช่วงคลื่นให้ช่วยรักษารอยแดง รอยดำจากสิว หลังจากสิวอักเสบยุบแล้ว ช่วยกระชับรูขุมขนเล็กลง ทำให้ผิวดูเรียบเนียน

  • เหมาะกับมีรอยสิว จุดด่างดำ
  • ช่วยหน้าใส ลดรอยสิว รอยแดง
  • ราคา 1 ครั้ง 1,500.-
  • ซื้อ 5 ครั้ง ฟรี 2 ครั้ง 

2.Pico Laser (พิโค่ เลเซอร์)

   Pico Laser (พิโค่ เลเซอร์) เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน โดยมีจุดเด่นที่พลังงานสูงมากและสามารถปล่อยพลังงานได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ตัวเลเซอร์สามารถลดเม็ดสีที่ฝังลึกในผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับการรักษาปัญหาผิวต่างๆ เช่น ผิว ฝ้า กระ รอยดำ  ผิวหมองคล้ำ และลบรอยสัก

  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ รอยสิว รอยดำ
  • ช่วยลดเม็ดสีทำให้สีผิวดูสม่ำเสมอ 
  • ราคาทั่วใบหน้า 1 ครั้ง 2,900.-
  • ซื้อ 5 ครั้ง แถม 1 ครั้ง

3.Long Pulse ND YAG

    เป็นเลเซอร์ที่มีความปลอดภัยสูงและสามารถใช้ได้กับทุกสีผิวเช่นเดียวกัน LONG PLUSE ND YAG  ไม่เป็นอันตรายต่อผิว มีความยาวของลำแสงเลเซอร์ถึง 1,064 nm และยังเป็นเครื่องเลเซอร์ที่มีความเข้มข้นสูง

   LONG PLUSE ND YAG  นั้นจะมี Dynamic Cooling Device ซึ่งทำหน้าที่ปล่อยก๊าซเย็นออกมา พร้อมๆ กับการทำเลเซอร์ จึงทำให้กับผิวชั้นบนเย็นสบายไม่รู้สึกเจ็บหรือแสบร้อนขณะที่ทำเลเซอร์

  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องรอยสิว
  • ช่วยลดรอยดำ รอยแดง ปรับสีผิวให้กระจ่างใส
  • ราคาทั่วใบหน้า 1 ครั้ง 2,900.-

โปรแกรมเมโส (Meso) ที่ชาเมอร์ คลินิก (Charmer Clinic) แนะนำ

1.Skin Glow Up

    เป็นนวัตรกรรมจากประเทศเกาหลีที่มีสารอาหารมากกว่า 50 ชนิด บำรุงได้ลึกถึง และสารในตัวยาสกัดจากDNA ของปลาแซลมอนซึ่งเป็นสารที่สามารถเข้าได้กับ DNA บนใบหน้าของเรา รวมถึงยังมีสาร HA 1.4 Million dalton weight ที่ผสมผสานกับ Polynucletide, Multivitamin ที่มีความเข้มข้น และสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะเห็นผลภายใน 5-14 วัน

  • ฟื้นฟูผิว  ผิวดูชุ่มชื้น  ผิวดูสุขภาพดี 
  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น
  • ราคา 1 ขวด 5,900.- (ปกติ 8,900)

2.Skin Booster

   เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ช่วยแก้ปัญหาผิวต่างๆ โดยไม่ต้องผ่าตัด แต่วิธีจะแตกต่างจากการทำเมโสเทอราปี 

    วิธีการทำ Skin Booster (Meso gun) จะใช้ตัวเครื่องไมโครชิพร่วมกับหัวเข็มขนาดนาโนคริสตัลที่มีจำนวนมากมาย ที่สามารถนำตัวยาเข้าชู่ชั้นผิวหนังได้ถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) ทำให้เห็นผลลัพธ์ได้เร็วและมีประสิทธิภาพสูงมากกว่าการฉีดเมโสทั่วไป  โดยจะมีด้วยกันทั้งหมด 6 สูตร

1.สูตร “White Radiance”

  • ช่วยลดรอยดำ ฝ้า กระ
  • เหมาะกับคนที่อยากเน้นในเรื่องผิวขาวใส 
  • ราคา 1 ครั้ง 2,500.-
  • ราคา 5 ครั้ง 10,000.-

2.สูตร “Acne Klear”

  • ช่วยเรื่องลดสิว ผิวอักเสบ 
  • เหมาะกับคนเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย 
  • ราคา 1 ครั้ง 2,999.-
  • ราคา 5 ครั้ง 13,000.-

3.สูตร “Vampire Plus”

  • ช่วยบูสต์ผิว ฟื้นฟูและซ่อมแซมผิว 
  • เป็นการใช้เลือดตัวเองผสมกับยาสูตรคลินิก
  • ราคา 1 ครั้ง 5,500.-
  • ราคา 5 ครั้ง 25,000.-

4.สูตร “Glassy Glow”

  • ช่วยให้ผิวดูอิ่มฟู รูขุมขนกระชับขึ้น  ให้งานผิว (Glass Skin)
  • เหมาะสำหรับคนที่อยากเน้นเรื่องผิวใส ฉ่ำ โกลว์
  • ราคา 1 ครั้ง 7,900.-
  • ราคา 5 ครั้ง 35,000.-

5.สูตร “CM Signature”

  • เป็นสูตรลับเฉพาะเน้นเรื่องผิวใส ฉ่ำ โกลว์ 
  • สูตรพรีเมียม 3 ขั้นตอน พร้อมอาหารผิว Stemcell growth factor,PDRN
  • ราคา 1 ครั้ง 9,900.-
  • ราคา 5 ครั้ง 50,000.-

6.สูตร “HYDRO+”

  • ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำ กระตุ้นคอลลาเจน ผิวใส 
  • เหมาะกับคนที่มีผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ 
  • ราคา 1 ครั้ง 3,900.-
  • ราคา 5 ครั้ง 17,500.- 

3.Rejuran (รีจูรัน)

คือการฟื้นฟูผิวด้วยพอลินิวคลีโอไทด์(Polynucleotide) ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่สกัดมาจาก DNA ของปลาแซลมอน ที่อยู่ในทะเลตามธรรมชาติ ซึ่งมีDNAคล้ายคลึงกับมนุษย์ที่สุด เพื่อช่วยซ่อมแซมผิวในระดับลึก แก้ปัญหาผิวที่เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนใส ฉ่ำวาวและรูขุมขนเล็กลง

  • ช่วยซ่อมแซมผิวจากภายใน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน 
  • เหมาะกับคนที่มีผิวแห้งกร้าน ผิวขาดน้ำ มีริ้วรอยเล็กๆ
  • ราคา 2 ซีซี 9,900.- (ปกติ 15,000.-) 

Q&A คำถามที่พบบ่อย

ฉีดโปรแกรมเมโส (Meso) เจ็บไหม?

การฉีดเมโสเจ็บเล็กน้อยคล้ายถูกยุงกัด ก่อนการฉีดจะมีการทาครีมชาก่อนเพื่อลดความเจ็บ และอาจมีรอยแดงบวมเล็กน้อยที่หายได้เองใน 1-2 วัน 

หลังทำโปรแกรมเลเซอร์ (Laser) จะรู้สึกแสบร้อนผิวไหม?

  หลังทำเลเซอร์จะรู้สึกแสบร้อนและระคายเคืองผิวประมาณ 1-3 วัน  เนื่องจากเลเซอร์เป็นพลังงานความร้อน แต่สามารถหายได้เอง

    หากต้องการลดความแสบร้อน สามารถใช้แผ่นประคบเย็น ทาครีมบำรุงและครีมกันแดดตามที่แพทย์แนะนำ ควรหลีกเลี่ยงการเจอแสงแดดในช่วงนี้

โปรแกรมเลเซอร์ (Laser) ต้องทำซ้ำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?

    การทำเลเซอร์จะเห็นผลชัดตั้งแต่ครั้งแรก แต่เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดควรทำประมาณ 3-6 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 2-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาที่ต้องการแก้ไข

    โดยแพทย์จะประเมินและวางแผนการรักษาให้เหมาะกับแต่ละบุคคล

โปรแกรมฟิลเลอร์งานผิว ต้องฉีดกี่ CC ?

ปริมาณที่ใช้ในการฉีดมักจะอยู่ที่ ประมาณ 4-6  CC ต่อครั้ง โดยปริมาณที่ใช้จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าและความต้องการของแต่ละบุคคล เช่น การเพิ่มความชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ และเพิ่มความสดใสให้ผิวหน้า

ฟิลเลอร์งานผิว กับ ไหมน้ำ ฉีดพร้อมกันได้ไหม ?

ไม่สามารถฉีดพร้อมกันได้ค่ะ  แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์งานผิวก่อนและเว้นระยะห่างประมาณ 1 เดือน ถึงจะสามารถฉีดไหมน้ำ (Biostimulator)ได้ค่ะ

รีวิว จากผู้รับบริการจริง 

บทความที่เกี่ยวข้อง

  • All Posts
  • ฟิลเลอร์

บทความอื่น ๆ

  • All Posts
  • ข่าวสาร
  • ปรับรูปหน้า
  • ฟิลเลอร์
  • สลายไขมัน
  • เมโสหน้าใส
  • เลเซอร์