
Q&A เรื่อง ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับฟิลเลอร์ทางการแพทย์ ...
ปัจจุบันการฉีดฟิลเลอร์เป็นหนึ่งในหัตถการความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยคุณสมบัติที่สามารถเติมเต็มร่องลึก เพิ่มมิติให้ใบหน้า หรือแม้แต่การปรับรูปหน้าให้สมส่วนได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่ก็ยังมีคำถามและความกังวลมากมายเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ บทความนี้จะมาไขข้อข้องใจและให้ความรู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์โดยคุณหมอถ๋อง แพทย์ประจำชาเมอร์ คลินิก
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ที่ใช้ในปัจจุบันส่วนใหญ่จะมีส่วนประกอบหลักเป็น กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกายของมนุษย์ โดยพบในผิวหนัง ข้อต่อ และเนื้อเยื่อหลายชนิด กรดไฮยาลูโรนิกมีคุณสมบัติในการดึงน้ำและช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื้น จึงทำให้ฟิลเลอร์ที่มีกรดไฮยาลูโรนิกสามารถเติมเต็มริ้วรอยและร่องลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กรดไฮยาลูโรนิกเป็นสารที่ร่างกายเราผลิตขึ้นเองตามธรรมชาติ ทำให้ไม่เกิดการต่อต้านจากระบบภูมิคุ้มกัน และถูกย่อยสลายและดูดซึมในร่างกายได้ง่าย ไม่มีการสะสมในเนื้อเยื่อ จึงทำให้มีความเสี่ยงน้อยต่อการเกิดอาการแพ้หรือมีผลข้างเคียง
การใช้ฟิลเลอร์จะไม่เป็นอันตรายหากใช้ฟิลเลอร์แท้และได้รับการฉีดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น โดยปกติอาจมีผลข้างเคียงหลังจากการฉีดซึ่งเป็นเรื่องปกติไม่เป็นอันตราย ตัวอย่างเช่น รอยช้ำ บวม และแดงบริเวณที่ฉีด อาการมักดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์
จะอธิบายความแตกต่างระหว่างเนื้อนิ่มและเนื้อแข็งให้เข้าใจง่ายๆนะครับ
สลายได้จริง ในร่างกาย เนื่องจากกรดไฮยาลูโรนิกเป็นสารธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อฉีดเข้าไปในผิวหนัง ร่างกายจะค่อยๆ ย่อยสลายและดูดซึมสารนี้ออกไป โดยไม่ทิ้งสารตกค้าง
ระยะเวลาในการสลาย จะขึ้นอยู่กับ ประเภทของฟิลเลอร์ ปริมาณที่ใช้ ลักษณะการใช้งาน และวิธีการดูแลหลังการฉีด
การฉีดฟิลเลอร์สามารถทำได้ตามความต้องการของแต่ละบุคคล แต่ควรพิจารณาปัจจัยหลายๆ อย่างเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการรักษา โดยทั่วไปแล้ว การฉีดฟิลเลอร์ สามารถทำได้ทุกๆ 6 เดือนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับประเภทของฟิลเลอร์และผลลัพธ์ที่ต้องการ
การฉีดฟิลเลอร์สำหรับคนที่มีโรคประจำตัว จำเป็นต้องมีการพิจารณาและคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างรอบคอบ เนื่องจากบางโรคประจำตัวอาจมีผลต่อความปลอดภัยหรือประสิทธิภาพของการรักษา
นอกจากนี้ยังมีข้อห้ามและข้อควรระวังที่ควรทราบ เช่น โรคที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน โรคที่เกี่ยวข้องกับเลือด โรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทและการเคลื่อนไหว โรคหรืออาการเกี่ยวกับการติดเชื้อ การใช้ยาบางชนิด หรือ ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ไม่จริงเสมอไปครับ สาเหตุของใบหน้าแข็งหรือดูไม่เป็นธรรมชาตินั้นจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้
การฉีดฟิลเลอร์ไม่ได้จำกัดเฉพาะคนที่มีอายุมากเท่านั้นครับ แต่พิจารณาจากความเหมาะสมและความต้องการของแต่ละบุคคล
โดยทั่วไป อายุที่เหมาะสมสำหรับการเริ่มฉีดฟิลเลอร์จะอยู่ที่ประมาณ 21-25 ปีขึ้นไป เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว โครงสร้างกระดูกใบหน้าและเนื้อเยื่อมีความคงที่ และสามารถตัดสินใจและเข้าใจผลของการทำหัตถการได้อย่างรอบคอบ
การฉีดฟิลเลอร์สามารถทำให้เกิดอาการ แพ้ได้ แม้ว่าจะหายาก เนื่องจากฟิลเลอร์ที่นิยมใช้ในปัจจุบันส่วนใหญ่ทำมาจาก กรดไฮยาลูโรนิก ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว แต่ก็ยังคงมีความเป็นไปได้ที่ร่างกายบางคนอาจตอบสนองต่อฟิลเลอร์ในทางที่ไม่พึงประสงค์ได้
อาการแพ้ที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์ อาจมีอาการทางผิวหนัง รวมถึงลมพิษ หรือตุ่มน้ำ ฯลฯ
หากไม่พอใจกับผลลัพธ์หลังการฉีดฟิลเลอร์ สามารถทำการ แก้ไข หรือ ปรับปรุงผลลัพธ์ ได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และประเภทของปัญหาที่เกิดขึ้น วิธีการแก้ไข เช่น การฉีดสลายฟิลเลอร์ การรอให้ฟิลเลอร์สลายไปเอง การปรับผลลัพธ์ด้วยการฉีดฟิลเลอร์เพิ่ม
อันดับแรกแพทย์ต้องมีใบประกอบวิชาชีพชัดเจน ตรวจสอบรายชื่อแพทย์ผ่านทางเว็บไซต์แพทยสภาได้ และมีประสบการณ์ในด้านการฉีดฟิลเลอร์ มีผลงานก่อน-หลัง ของคนไข้จริง และสามารถให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการปรับรูปหน้าให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้
การประเมินความเหมาะสมของการฉีดฟิลเลอร์สำหรับแต่ละบุคคลนั้น ควรพิจารณาจากหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การฉีดฟิลเลอร์ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เช่น อายุและสภาพผิว ปัญหาที่ต้องการแก้ไข คาดหวังผลลัพธ์และความต้องการ แต่ต้องได้รับการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
โดยปกติแล้วสารฟิลเลอร์มีโอกาสเคลื่อนย้ายได้ แต่โอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมากหากฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งส่วนใหญ่ช่วงที่ต้องเฝ้าระวัง มักจะเกิดในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังฉีด และในบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวมาก เช่น รอบปาก มีโอกาสเคลื่อนมากกว่า หากมีการนวดหรือกดบริเวณที่ฉีดแรงเกินไปอาจทำให้เคลื่อนได้เช่นเดียวกัน
การหยุดฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ไม่ได้ทำให้ผิวหน้าเสียรูปทรงหรือหย่อนคล้อยมากขึ้นกว่าเดิม แค่หลังการฉีดฟิลเลอร์ ผิวหน้าจะดูเต็มขึ้นหรือเรียบเนียนขึ้น หากหยุดฉีด อาจทำให้รู้สึกว่าหน้าดูโทรมหรือเปลี่ยนไป แม้สภาพผิวจะกลับมาใกล้เคียงกับก่อนฉีดก็ตาม.
ฟิลเลอร์ เป็นหัตถการที่ปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่ดีหากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและแพทย์ที่มีประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญที่สุด นอกจากนี้ การปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังการฉีดอย่างเคร่งครัดจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้
บทความที่เกี่ยวข้อง
Q&A เรื่อง ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับฟิลเลอร์ทางการแพทย์ ...
โปรแกรม ไหมน้ำ VS โปรแกรม ฟิลเลอร์งานผิว เลือกแบบไหนดี ...
บทความอื่น ๆ
เทรนด์มาแรง 2025! ส่องวิธีลบรอยสิว รอยดำ จุดด่างดำ ด้วย...
ตอกย้ำความสำเร็จ! Charmer Clinic คว้า 3 รางวัลใหญ่! จาก...
บริการของเรา
หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
บริการของเรา
โปรโมชั่น
BEFORE & AFTER
บทความ
ติดต่อเรา
095-058-3666
095-521-0666
094-696-5322
094-559-8748
093-241-4969
098-154-454
096-016-1666
083-978-0666
© 2024 Charmerclinic Develop by Bp Online Groups
เวลาทำการ
11:00 – 20:00 น.
บริการของเรา
หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
บริการของเรา
โปรโมชั่น
BEFORE & AFTER
บทความ
ติดต่อเรา
095-058-3666
095-521-0666
094-696-5322
094-559-8748
093-241-4969
098-154-454
096-016-1666
083-978-0666
© 2024 Charmerclinic Develop by Bp Online Groups